คู่มือการใช้งาน Canva พร้อมบอกคุณสมบัติเด่นที่มือใหม่ต้องรู้

ออกแบบกราฟิกและโมชั่น
guide-to-design-on-canva

อย่างที่ทราบกันดีว่า การออกแบบกราฟิกนั้นเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ผสมผสานกัน ฉะนั้น นักออกแบบต้องมีความรู้ความสามารถทั้งในด้านศิลปะและเทคโนโลยี รวมถึงทักษะในการสื่อสารและการแก้ปัญหา เพื่อที่จะสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้

 

แต่ในปัจจุบัน การออกแบบกราฟิกไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้นแล้ว เพราะเรามีเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มล้ำสมัยอย่าง “Canva” มาช่วยในการออกแบบ ทำให้คุณเป็นนักออกแบบมืออาชีพได้ในคลิกเดียว !

 

Canva คืออะไร ? ทำงานอย่างไร 

Canva คือ แพลตฟอร์มออกแบบกราฟิกออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและมีเครื่องมือที่หลากหลาย ทำให้ Canva เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านการออกแบบ และนักออกแบบมืออาชีพที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

 


 

ประโยชน์ของ Canva มีอะไรบ้าง ทำไมถึงเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ?

Canva ไม่ใช่แค่โปรแกรมออกแบบกราฟิกทั่วไป แต่เป็นแพลตฟอร์มที่เข้ามาเปลี่ยนวิธีการสร้างสรรค์งานออกแบบของคนทั่วโลก ทำให้การออกแบบกลายเป็นเรื่องง่ายและสนุกมากขึ้น และนี่คือหนึ่งจากใน 5 เหตุผลที่ทำให้ Canva ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

1. ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีพื้นฐานด้านกราฟิก

  • อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตร : Canva ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมาก ใครๆ ก็สามารถเข้าใจและใช้งานได้ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ

  • เทมเพลตพร้อมใช้ : มีเทมเพลตให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์ โซเชียลมีเดีย ใบปลิว นามบัตร หรือเอกสารนำเสนอ ทำให้คุณไม่ต้องเริ่มจากศูนย์

  • เครื่องมือที่ใช้งานง่าย : มีเครื่องมือที่ใช้งานง่าย เช่น การลากและวาง การปรับขนาด และการเปลี่ยนสี ทำให้คุณสามารถสร้างงานออกแบบได้อย่างรวดเร็ว

 

2. ฟรีและคุ้มค่า

  • แผนฟรีที่ครอบคลุม : Canva มีแผนฟรีที่ให้คุณใช้งานได้ฟรี มีฟีเจอร์พื้นฐานที่เพียงพอสำหรับการใช้งานส่วนบุคคลหรือธุรกิจขนาดเล็ก

  • แผน Pro ที่คุ้มค่า : สำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น รูปภาพและกราฟิกแบบพรีเมียม Canva Pro ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า

 

3. ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย

  • งานออกแบบหลากหลายรูปแบบ : ไม่ว่าจะเป็น โปสเตอร์ โซเชียลมีเดีย ใบปลิว นามบัตร เอกสารนำเสนอ หรือแม้แต่การออกแบบโลโก้ Canva ก็ทำได้

  • ทำงานร่วมกันได้ : สามารถทำงานร่วมกับทีมได้อย่างสะดวก ช่วยให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา : สามารถใช้งาน Canva ได้ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนมือถือ ทำให้คุณสามารถสร้างงานออกแบบได้ทุกที่ทุกเวลา

 

4. ปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์

  • อัปเดตฟีเจอร์อยู่เสมอ : Canva มีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ทันต่อเทรนด์และความต้องการของผู้ใช้งาน

  • ตอบสนองความต้องการของตลาด : Canva เข้าใจถึงความต้องการของตลาดและพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

 

5. การตลาดที่แข็งแกร่ง

  • การโปรโมตที่เข้มข้น : Canva มีการทำการตลาดที่แข็งแกร่ง ทำให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้ใช้งาน

  • สร้างคอมมูนิตี้ : Canva สร้างคอมมูนิตี้ของผู้ใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และไอเดียกันได้

คู่มือการใช้งาน Canva

Canva เหมาะสำหรับใคร ?

Canva ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องมือออกแบบกราฟิกออนไลน์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่ม เนื่องจากมีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและใช้งานง่าย ฉะนั้น มาดูกันดีกว่าว่า Canva เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้งานประเภทใดบ้าง ?

 

1. ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านการออกแบบ

  • ใช้งานง่าย : Canva ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้ด้านกราฟิกมาก่อนก็สามารถสร้างสรรค์งานได้

  • เทมเพลตพร้อมใช้ : มีเทมเพลตให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ แค่คลิกเดียวก็ขึ้นชิ้นงานได้เลย

 

2. ผู้ประกอบการและธุรกิจขนาดเล็ก

  • สร้างแบรนด์ : Canva ช่วยให้คุณสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ของคุณได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องมือในการสร้างโลโก้ และจัดการองค์ประกอบต่างๆ ของแบรนด์

  • ออกแบบสื่อการตลาด : ใช้สำหรับออกแบบโปสเตอร์ โซเชียลมีเดีย ใบปลิว นามบัตร และเอกสารทางการตลาดต่างๆ

  • ประหยัดค่าใช้จ่าย : ด้วยแผนฟรี และแผน Pro ที่คุ้มค่า ทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์งานออกแบบได้โดยไม่ต้องจ้างนักออกแบบกราฟิก

 

3. นักการตลาดและผู้ที่ทำงานด้านคอนเทนต์

  • สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : Canva ช่วยให้คุณสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและดึงดูดสายตาได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพธรรมดา หรืออินโฟกราฟิก

  • โพสต์บนโซเชียลมีเดีย : Canva  มีเทมเพลตสำหรับโซเชียลมีเดียหลากหลายรูปแบบ ช่วยให้คุณสร้างโพสต์ที่สวยงาม ถูกต้อง และสอดคล้องกับแบรนด์

 

4. นักศึกษาและครู (Canva เพื่อการศึกษา) 

  • สร้างสื่อการสอน : ใช้สำหรับสร้างสื่อการสอนที่น่าสนใจ เช่น โปสเตอร์ ใบปลิว และเอกสาร

  • ทำโครงงาน : ใช้สำหรับทำโครงงานต่างๆ เช่น โปสเตอร์นำเสนอผลงาน หรือเอกสารรายงาน เป็นต้น

  • ออกแบบงานนำเสนอ : Canva ช่วยให้คุณสร้างงานนำเสนอที่น่าสนใจและดึงดูดความสนใจต่อผู้พบเห็นได้

 

5. บล็อกเกอร์และยูทูบเบอร์

  • สร้างภาพปกวิดีโอ : Canva ช่วยให้คุณสร้างภาพปกวิดีโอที่สวยงามและดึงดูดสายตา

  • ออกแบบภาพประกอบบทความ : ใช้สำหรับสร้างภาพประกอบบทความที่น่าสนใจ

  • สร้างภาพไทม์ไลน์ : Canva ช่วยให้คุณสร้างภาพไทม์ไลน์ที่แสดงลำดับขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างชัดเจน

ฟีเจอร์ Canva

Canva มีฟีเจอร์อะไรบ้าง ? พร้อมบอกคุณสมบัติเด่นของแต่ละตัว

Canva อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เจ๋งๆ ที่ช่วยให้การออกแบบของคุณเป็นเรื่องง่าย สนุก และเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น มาดูกันว่าฟีเจอร์เด่นๆ ของ Canva มีอะไรบ้าง ?

 

1. Canva ฟีเจอร์พื้นฐาน

  • เทมเพลตหลากหลาย : ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์ โซเชียลมีเดีย ใบปลิว นามบัตร เอกสารนำเสนอ หรือแม้แต่โลโก้ Canva ก็มีเทมเพลตพร้อมใช้ให้เลือกมากมาย

  • เครื่องมือแก้ไขง่าย : ปรับเปลี่ยนข้อความ รูปภาพ สี และองค์ประกอบต่างๆ ได้อย่างอิสระด้วยเครื่องมือที่ใช้งานง่าย

  • คลังรูปภาพและกราฟิก : มีรูปภาพ ไอคอน และกราฟิกให้เลือกใช้มากมาย ทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน

  • ฟอนต์หลากหลาย : มีฟอนต์ให้เลือกใช้แบบนับไม่ถ้วน ทั้งฟอนต์ที่ติดตั้งมาในตัวและฟอนต์ที่สามารถอัปโหลดเองได้

 

2. Canva ฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับงานออกแบบที่ซับซ้อน

  • Brand Kit : สร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์ของคุณด้วยการกำหนดสี โลโก้ และฟอนต์ที่ใช้เป็นประจำ

  • Magic Resize : ปรับขนาดงานออกแบบให้เหมาะกับแพลตฟอร์มต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

  • Grids & Guides : สร้างองค์ประกอบที่สมดุลและเป็นระเบียบด้วยเส้นตารางและเส้นนำ

  • Effects : เพิ่มลูกเล่นให้กับงานออกแบบด้วยเอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น เงา เงาตกกระทบ และความโปร่งใส

 

3. Canva ฟีเจอร์สำหรับการทำงานร่วมกัน

  • Canva Teams : สร้างทีมเพื่อทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวก แชร์ไฟล์ และคอมเมนต์งานได้แบบเรียลไทม์

  • Presentations : นำเสนองานของคุณได้อย่างมืออาชีพด้วยโหมด Presentation ที่มีฟีเจอร์ครบครัน

 

4. Canva ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ

  • AI Image Generator : สร้างภาพจากข้อความ เพียงแค่พิมพ์คำอธิบายที่ต้องการ

  • Magic Eraser : ลบส่วนที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้อย่างง่ายดาย

  • Magic Edit : แก้ไขภาพได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว


 

Canva Pro ราคาเท่าไหร่ คุ้มค่ากับการลงทุนไหม ? 

คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ โดยเปรียบเทียบแพ็คเกจ Canva ทั้ง 3 แบบ ดังนี้

 

1. Canva ฟรี

เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือใช้งานส่วนบุคคล เน้นความง่ายในการใช้งาน มีเทมเพลตให้เลือกมากมาย แต่ฟีเจอร์จะจำกัดกว่าแพ็คเกจอื่นๆ

เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือใช้งานส่วนบุคคลที่ต้องการสร้างงานออกแบบง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น โปสเตอร์ โซเชียลมีเดีย หรือเอกสารต่างๆ แต่ฟีเจอร์จะจำกัดกว่าแพ็คเกจอื่นๆ

ราคา : ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

2. Canva Pro

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ที่ครบครันขึ้น เพื่อสร้างสรรค์งานออกแบบที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น เช่น การเข้าถึงรูปภาพและกราฟิกคุณภาพสูง, กำหนดตารางโพสต์, และทำงานร่วมกับทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ราคา: 230 บาท/เดือน | 1,850/ปี

 

3. Canva Teams

เหมาะสำหรับทีมงานหรือองค์กรที่ต้องการจัดการแบรนด์และทรัพยากรการออกแบบร่วมกัน มีฟีเจอร์สำหรับการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง ต้องการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ

ราคา : 180 บาท/เดือน ต่อคน | 1,800/ปี (ขั้นต่ำ 3 คน)

ดังนั้น ราคาของ Canva Pro จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแผนที่คุณเลือกซื้อ และระยะเวลาการสมัคร โดยทั่วไปจะมีการคิดราคาเป็นรายปี หรือรายเดือน และอาจมีส่วนลดพิเศษสำหรับการสมัครใช้ระยะยาว มาดูปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา Canva Pro

  • แผนที่เลือก : Canva Pro มีหลายแผนให้เลือก เช่น แผนสำหรับบุคคลทั่วไป แผนสำหรับทีม หรือแผนสำหรับองค์กร ซึ่งแต่ละแผนจะมีฟีเจอร์และราคาที่แตกต่างกัน

  • ระยะเวลาการสมัคร : การสมัครใช้รายปีมักจะมีราคาถูกกว่าการสมัครใช้รายเดือน

  • โปรโมชั่น : Canva มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาให้กับลูกค้าใหม่ หรือในช่วงเทศกาลต่างๆ

ทั้งนี้ เนื่องจากราคาของ Canva Pro อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้คุณเข้าไปตรวจสอบราคาที่เว็บไซต์หลักของ Canva โดยตรงจะดีที่สุด ซึ่งคุณสามารถเข้าไปดูรายละเอียดและเปรียบเทียบแผนต่างๆ ได้ที่ Canva เลย

 

บทสรุป

แน่นอนว่า Canva คือเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างงานออกแบบพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ผลงานส่วนตัว หรือการใช้งานในเชิงธุรกิจ หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยสร้างสรรค์ผลงานกราฟิกได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว Canva คือคำตอบของคุณ

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการงานออกแบบที่โดดเด่น เป็นมืออาชีพ และตรงกับแบรนด์อย่างแท้จริง การจ้างบริษัท รับออกแบบกราฟิก อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากคุณจะประหยัดเวลาการทำงานแล้ว คุณยังได้งานที่สร้างสรรค์ ตรงใจ และกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้มากขึ้นอีกด้วย

 

แชร์ :

บทความอื่นๆ

สวัสดี!,

พร้อมสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกันหรือยัง?
ถึงเวลาทำให้ไอเดียกลายเป็นจริง!

มาวางแผน ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง และพุ่งสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน!