รับทำโฆษณา Facebook Ads

เปลี่ยนผู้ชม เป็นลูกค้า ด้วยโฆษณา Facebook ที่ใช่

Facebook

ไม่ใช่แค่ช่องทางโปรโมตสินค้า แต่เป็‘ศูนย์กลางการตลาดดิจิทัล’ ที่ธุรกิจทั่วโลกมาแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพื่อช่วงชิงความสนใจ รังสรรค์แคมเปญที่โดดเด่น และสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

สร้างประสบการณ์เหนือ "การยิงแอด"

เราไม่ได้มอง Facebook เป็นแค่พื้นที่โฆษณา แต่เรามอง Facebook เป็น ‘ลานความคิด’ ที่ผู้คนมารวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์ และแบ่งปันเรื่องราว เราจึงเจาะลึกทุกรายละเอียด ทั้งวิเคราะห์เทรนด์ พฤติกรรม และความสนใจของกลุ่มเป้าหมายบน Facebook เพื่อสร้างแคมเปญที่สอดคล้องกับความต้องการของพวกเขาอย่างแท้จริง

เข้าถึงแก่นด้วย "ข้อมูล" เจาะลึกกว่าใคร

เราไม่ได้โฟกัสแค่ตัวเลข แต่เราวิเคราะห์ ข้อมูลเชิงลึก เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง อาทิ Meta Business Suite, Facebook Page Insights และเครื่องมืออื่นๆ เราจึงสามารถติดตามและวัดผลแคมเปญได้อย่างละเอียด เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงและพัฒนาแคมเปญอย่างต่อเนื่อง ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการลงทุน

สร้างสรรค์ "เนื้อหา" ที่แตกต่าง อย่างตรงใจ

เราเชื่อว่า ‘เรื่องราว’ คือ พลังขับเคลื่อนโฆษณาให้ก้าวสู่ความสำเร็จ เราจึงมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์เนื้อหา ที่เข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาษาที่ตรงใจ การเล่าเรื่องที่น่าติดตาม หรือการสร้างสรรค์ภาพและวิดีโอที่สะกดทุกสายตา

Report Facebook Ads โปร่งใส "สื่อสาร" ชัดเจน

เราให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่ชัดเจนและโปร่งใสกับลูกค้า เพราะเราเชื่อว่า ‘ความไว้วางใจ’ คือ หัวใจสำคัญของการทำงานร่วมกัน เราจึงรายงานผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ พร้อมให้คำปรึกษาและตอบทุกข้อสงสัยของคุณตลอดเวลา เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแคมเปญโฆษณาของคุณอย่างครบถ้วน และเข้าใจถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เพราะเราเชื่อว่า ‘ความสำเร็จ’ ของคุณ คือ ‘ความสำเร็จ’ ของเรา

FAQs

จากประสบการณ์การทำงานของเรา
เราได้รับคำถามที่เกี่ยวข้องกับการบริการมากมาย
โดยคำถามที่พบบ่อยมีดังนี้

Facebook Marketing คืออะไร ?

Facebook Marketing คือ การทำการตลาดบนแพลตฟอร์ม Facebook เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์ การเพิ่มยอดขาย หรือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยใช้เครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ ที่ Facebook มีให้

การดูโฆษณา Facebook ของคู่แข่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวิเคราะห์ตลาดและปรับปรุงกลยุทธ์การโฆษณาของคุณ ซึ่งจะสามารถดูได้ 2 ช่องทาง คือ


1.ใช้คลังโฆษณาของ Facebook (Facebook Ad Library)

  • ไปที่เว็บไซต์ Facebook Ad Library
  • หรือเข้าไปที่หน้า Facebook Page ของคู่แข่ง ในส่วน “ความโปร่งใสของเพจ” (Page Transparency) แล้วเลือก “ไปที่คลังโฆษณา” (Go to Ad Library)
  • เลือกประเทศที่คุณต้องการดูโฆษณา
  • เลือกหมวดหมู่โฆษณา เช่น โฆษณาทั้งหมด หรือโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสังคม การเลือกตั้ง หรือการเมือง
  • พิมพ์ชื่อเพจ หรือคำหลักที่เกี่ยวข้องกับคู่แข่งของคุณในช่องค้นหา
  • ดูโฆษณาที่กำลังใช้งานอยู่ของคู่แข่ง
  • สังเกตเนื้อหา รูปภาพ วิดีโอ และข้อความโฆษณา
  • ดูวันที่เริ่มโฆษณาเพื่อทราบระยะเวลาที่โฆษณาถูกใช้งาน
  • นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะเพื่อปรับปรุงแผนการตลาดของธุรกิจคุณ


2.สังเกตโฆษณาบนฟีด Facebook ของคุณ

  • เมื่อคุณเห็นโฆษณาที่น่าสนใจหรือคิดว่าเป็นของคู่แข่ง ให้คลิกที่จุดสามจุด (…) ที่มุมขวาบนของโฆษณา
  • เลือก “ทำไมฉันจึงเห็นโฆษณานี้” (Why am I seeing this ad?) เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของโฆษณา
  • การที่เฟซบุ๊กแสดงผลโฆษณาให้คุณเห็นนั้น แสดงว่าคุณอาจจะอยู่ในกลุ่มเป้าหมายของโฆษณาชิ้นนั้นๆ นั่นเอง

Meta Business Suite เป็นเครื่องมือฟรีจาก Meta (Facebook) ที่ช่วยให้ธุรกิจจัดการบัญชี Facebook และ Instagram ได้อย่างมีประสิทธิภาพในที่เดียว โดยมีฟีเจอร์หลากหลายที่ช่วยให้ธุรกิจสื่อสารกับลูกค้า สร้างเนื้อหา และวิเคราะห์ผลลัพธ์ได้อย่างง่ายดาย

การกำหนดค่าโฆษณา Facebook ต่อเดือนไม่มีตัวเลขที่แน่นอน เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้ 


1.กลุ่มเป้าหมาย

  • กลุ่มเป้าหมายที่มีการแข่งขันสูง (เช่น กลุ่มคนวัยทำงานในเมืองใหญ่) จะมีค่าโฆษณาแพงกว่ากลุ่มเป้าหมายที่มีการแข่งขันต่ำ
  • การกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น (เช่น อายุ เพศ ความสนใจ) จะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้แม่นยำขึ้น แต่ก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป


2.วัตถุประสงค์ของแคมเปญ

วัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน (เช่น การเพิ่มการรับรู้แบรนด์ การเพิ่มยอดขาย การเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์) จะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน ซึ่งการเพิ่มยอดขายมักจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเพิ่มการรับรู้แบรนด์


3.คุณภาพของโฆษณ

โฆษณาที่มีคุณภาพสูง (เช่น รูปภาพและวิดีโอที่น่าสนใจ ข้อความที่ดึงดูดใจ) จะมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าโฆษณาที่มีคุณภาพต่ำ ทั้งนี้ก็เพราะว่า Facebook จะให้รางวัลแก่โฆษณาที่มีคุณภาพสูงโดยการแสดงผลโฆษณาในราคาที่ถูกกว่า


4.ช่วงเวลาและตำแหน่งการแสดงผล

  • ช่วงเวลาที่มีการแข่งขันสูง (เช่น ช่วงเทศกาล) จะมีค่าโฆษณาแพงกว่าช่วงเวลาที่มีการแข่งขันต่ำ
  • ตำแหน่งการแสดงผล (เช่น ฟีดข่าว Instagram Stories) ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันเช่นกัน

5.การประมูล

Facebook ใช้ระบบการประมูลเพื่อกำหนดราคาโฆษณา คุณจะต้องแข่งขันกับผู้ลงโฆษณารายอื่นๆ เพื่อให้โฆษณาของคุณแสดงผล

หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยในการทำ Facebook Ads
ที่พร้อมสร้างแคมเปญโฆษณาที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย
เพิ่มยอดขาย และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของคุณ

ติดต่อเราวันนี้ เพื่อเริ่มต้นการเดินทางสู่ความสำเร็จบน Facebook !

โซลูชั่นการตลาดอื่นๆ