
เคยไหม? มองหาเครื่องมือดี ๆ สักอย่างเพื่อช่วยในการทำงาน ดันเจอแต่ของราคาแพง หรือไม่ก็ฟรีแต่ใช้งานยาก ฟีเจอร์ไม่ครบถ้วน ซึ่งถูกและดี ปกติแล้วมักจะชอบไม่มีอยู่จริง แต่สำหรับเครื่องมือที่กำลังจะถูกพูดถึงในคอนเทนต์นี้ น่าจะช่วยการันตีให้คุณได้ว่า “ถูกและดี” ก็มีอยู่จริงได้เช่นกัน ซึ่งเครื่องมือนั้นก็ได้แก่ “Google Trends” เครื่องมือสุดเจ๋งจาก Google ที่จะช่วยให้คุณ ปั้นคอนเทนต์แบบปัง ๆ โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท !
Google Trends คืออะไร ?
Google Trends คือ หนึ่งในเครื่องมือของ Google หรือเว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาข้อมูลที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งนอกจาก Google จะให้บริการในการสืบค้นข้อมูลแล้ว ทาง Google ยังได้เก็บเอาข้อมูล หรือ Data จากการสืบค้น มาประมวลผลและอัปเดตเป็นฐานข้อมูลในชื่อว่า Google Trends ที่จะช่วยให้คนทำคอนเทนต์ เจ้าของธุรกิจ หรือกิจการต่าง ๆ อย่างคุณ ได้เห็นข้อมูล ตัวเลข หรือแนวโน้มของสิ่งที่คนส่วนใหญ่กำลังสนใจอยู่ในขณะนั้น
โดยที่สามารถค้นหาข้อมูลได้ นับตั้งแต่ คีย์เวิร์ดค้นหามากที่สุด, หัวข้อ (Topic) ที่คนส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจ, เทรนด์อันดับ 1 วันนี้ โดยที่สามารถเลือกดูเฉพาะ Google Trend Thailand เพื่อจะได้กำหนดขอบเขต (Scope) กลุ่มเป้าหมายลงมา ซึ่งถือว่ามีประโยชน์ และนำไปต่อยอดได้หลากหลาย ที่สำคัญคือใช้งานฟรี !

วิธีใช้ Google Trends หาของมาขาย
อันดับแรกให้เข้าไปที่ https://trends.google.co.th/home หรือหน้า Google Trend Thailand (ถ้าอยากดูเทรนด์ของประเทศอื่น ๆ คุณก็สามารถกดเปลี่ยนประเทศได้)

- โดยในหน้าของ Google Trend ปกติแล้วทาง Google จะมีการรีแคปเทรนด์ให้คร่าว ๆ อยู่แล้วในแต่ละวัน แต่ถ้าคุณต้องการจะดูรายละเอียด รวมไปถึงเทรนด์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่แสดงผลในหน้าแรกกันเพิ่มเติม สามารถกดเข้าไปที่เมนู “Trending Now” “กำลังมาแรง” ด้านบนกันได้

- หลังจากกดเข้ามาในหน้า “Trending Now” “กำลังมาแรง” คุณจะเห็นหน้าตาของเทรนด์การค้นหารายวัน (สำหรับเทรนด์การค้นหาเรียลไทม์ตอนนี้ยังไม่สามารถใช้งานในไทยได้) โดยเทรนด์การค้นหารายวันจะไล่ย้อนหลังไปนับตั้งแต่ปัจจุบัน พร้อมรายละเอียดการค้นหาเทรนด์นั้น ๆ ในลักษณะของหัวข้อคอนเทนต์ รวมไปถึงตัวเลข เพื่อที่คุณจะได้เห็นภาพว่า Keyword ไหน หรือหัวข้อ Topic อะไร กำลังได้รับความสนใจจากผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยตอนนี้บ้าง

แต่หน้าที่จะเป็นประโยชน์กับการหาของมาขายโดยใช้ Google Trend ก็จะอยู่ในแถบเมนู “Explore” “สำรวจ” ที่อยู่ติดกับเมนู “Trending Now” “กำลังมาแรง” ที่คุณเพิ่งจะได้รู้จักกันไปในหัวข้อที่ผ่านมา โดยเมนูสำรวจนี้จะเป็นการแสดงผลข้อมูลความสนใจของผู้ใช้งานบน Google เกี่ยวกับคำค้นหาใด ๆ ก็ตาม ที่คุณจะต้องป้อนลงในช่อง “Add a search term” “เพิ่มข้อความค้นหา” ที่ระบุไว้ โดยที่คุณสามารถป้อนคำค้นหาได้มากกว่า 2 คีย์เวิร์ดลงไปได้

ยกตัวอย่างเช่น การเปรียบเทียบคำค้นหาระหว่าง “กระเป๋า” และ “เสื้อยืด” ทาง Google Trend ก็จะแสดงผลของข้อมูลมาให้ในลักษณะของกราฟ แสดงปริมาณการค้นหาว่า Keyword สินค้า หรือข้อความที่คุณได้พิมพ์ลงไป มีแนวโน้มของคนที่สนใจใน Keyword นั้น ๆ มากน้อยแค่ไหน
ที่สำคัญคุณยังสามารถระบุเวลาในการค้นหา (12 เดือนที่ผ่านมา, ชั่วโมงที่ผ่านมา, วันที่ผ่านมา, 7 วันที่ผ่านมา รวมถึงระบุเวลาแบบเฉพาะเจาะจงกันได้ด้วย) และนอกจากช่วงเวลาแล้ว หากคุณอยากได้สโคปของข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงไปมากกว่านั้น คุณยังสามารถใส่หมวดหมู่ของการค้นหาได้ด้วย อาทิเช่น หมวดช็อปปิ้ง, ชุมชนออนไลน์, อาหารและเครื่องดื่ม
นอกจากนี้ยังสามารถดู Location ของการค้นหาเพิ่มเติมได้ ดู Keyword คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับข้อความค้นหาของคุณได้ ซึ่งบรรดาลิสต์ข้อมูลโดยละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้ จะทำให้คุณได้ข้อมูลที่ละเอียด และเฉพาะเจาะจงของคุณมากขึ้นนั่นเอง
วิธีใช้ Google Trend ค้นหาสินค้าขายดี
สำหรับโจทย์นี้จะเป็นการต่อยอดมาจาก ‘วิธีใช้ Google Trend หาของมาขาย’ โดยจะเปลี่ยนมาเป็นการตามหา Google Trend สินค้าขายดีแทน วิธีการใช้งานจะลงรายละเอียดที่เยอะกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น

- สมมุติว่า ถ้าคุณยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะขายสินค้าอะไรดี ให้คุณลองนำประเภทของสินค้าทั้งหมดที่คุณสนใจ มาลองเปรียบเทียบดูในเมนูสำรวจ อย่างตัวอย่างที่ระบุไว้ข้างต้นนี้ เป็นการนำสินค้าทั้งหมด 5 อย่าง เป็นหมวดกระเป๋า 2 อย่าง หมวดเสื้อผ้า 2 อย่าง และหมวดรองเท้า 1 อย่างมาใส่ลงไปในช่องคำค้นหา

หลังจากทำการค้นหาเสร็จสรรพ คุณก็จะเห็นกราฟแสดงข้อมูลการสนใจของคน ทั้งแบบกราฟแท่ง และกราฟเส้นแสดงการเปรียบเทียบกันว่าจากสินค้าทั้งหมด 5 อย่างที่นำไปค้นหาในตอนแรก คนทั่วไปสนใจสินค้าประเภทไหนมากกว่ากัน
ทั้งนี้คุณสามารถปรับทามไลน์การค้นหา รวมถึงใส่หมวดหมู่ของการค้นหา เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในระยะเวลาอันใกล้ได้ เพราะยิ่งคุณใส่เงื่อนไขให้กับการสำรวจมากแค่ไหน คุณก็จะได้ข้อมูล Google Trend สินค้าขายดีที่ตอบโจทย์และนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้มากที่สุด
บทสรุป
ซึ่งการจะศึกษา Google Trend นั้น จริงอยู่ที่ว่าข้อมูลที่ได้ เป็นข้อมูลที่คุณสามารถนำไปใช้วางแผนการตลาดต่อได้ แต่รายละเอียดที่คุณควรจะต้องศึกษาเพิ่มเติม คือการทำให้คุ้นชินกับ Google Trend อย่างที่คุณน่าจะพอเห็นภาพผ่านตากันคร่าว ๆ มาแล้วก่อนหน้านี้
เพราะการจะใช้งานการค้นหานี้ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น คุณจะต้องให้เวลาในการศึกษา และทดลองใช้งานด้วยตัวเองตามไปด้วย เพราะจักรวาลของ Google เป็นจักรวาลที่ยิ่งใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลงของชุดข้อมูลอยู่ตลอดเวลา
และถ้าหากคุณอยากจะได้คำแนะนำดี ๆ และเทคนิคในการใช้งานกูเกิลเทรนด์ให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงรับทำคอนเทนต์โดยอิงฐานข้อมูลใน Google Trend เพื่อนำไปต่อยอด และปั้นคอนเทนต์ขายสินค้าให้ปัง ทันกระแส สามารถเข้ามาขอรับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญได้ที่ คลิก