ไฟล์ภาพ WebP คืออะไร ? ทำไมถึงเหมาะกับเว็บไซต์ที่ทำ SEO

ทำ SEO
ไฟล์ภาพ WebP คืออะไร

เมื่อหัวใจสำคัญของการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพคือเรื่องของความเร็ว ยิ่งเว็บไซต์โหลดได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อการทำ SEO มากขึ้นเท่านั้น โดยในการเช้าชมเว็บไซต์ มากกว่า 65% ของผู้ใช้งานต้องรอโหลด “รูปภาพ” ยิ่งขนาดภาพใหญ่มากเท่าไร หน้าเว็บไซต์ก็ยิ่งโหลดช้ามากขึ้นเท่านั้น และไฟล์ภาพที่ได้รับความนิยมในการนำมาแสดงผลบนเว็บไซต์มากที่สุด หนีไม่พ้นไฟล์ภาพสกุล JPEG เนื่องจากเป็นไฟล์ภาพที่แสดงประสิทธิภาพได้ดี ขนาดของไฟล์ไม่หนักเมื่อเทียบกับ PNG และ GIF 

 

แต่ในปัจจุบันยังมีไฟล์ภาพอีกสกุลหนึ่งที่ตอบโจทย์ด้านการทำ SEO นั่นก็คือ “WebP” นั่นเอง งานนี้เว็บไซต์ของใครที่มีปัญหารอโหลดภาพนาน ไฟล์รูปหนัก เว็บไซต์แม้จะบีบอัดไฟล์รูปภาพหรือบีบอัดรูปแล้วก็ตาม ไม่ควรพลาดบทความนี้ !

 

ปัญหานี้ถือว่าเป็นปัญหาระดับชาติเลยก็ว่าได้ จนถึงขนาดที่มีเทรนด์หนึ่งผุดขึ้นมา ซึ่งเป็นเทรนด์ที่คนทำงาน เหล่ามนุษย์เงินเดือนให้ความสนใจไม่น้อยเลย สิ่งนั้นก็คือ “Work Life Balance” หลายคนเชื่อว่า Work Life Balance คือ สิ่งที่จะช่วยเข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนให้หันมาสนใจความสมดุลระหว่าง การทำงาน และชีวิตส่วนตัวมากขึ้น 

 

WebP คืออะไร ตัวช่วยที่ทำให้เว็บไซต์โหลดภาพได้เร็วขึ้น

WebP คืออะไร ตัวช่วยที่ทำให้เว็บไซต์โหลดภาพได้เร็วขึ้นจริงหรือ ?

WebP คือ รูปแบบไฟล์ภาพประเภทหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Google เพื่อให้มีขนาดไฟล์ที่เล็กกว่าและคุณภาพรูปภาพที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบไฟล์ภาพทั่วไปเช่น JPEG หรือ PNG ที่แม้ว่าจะมีขนาดไฟล์ที่ใหญ่กว่าแต่เมื่อถูกบีบไฟล์รูปภาพให้มีขนาดเล็กก็จะสูญเสียคุณภาพของรูปภาพไปทันที 

 

ปัจจัยที่ทำให้ WeP ได้รับความนิยม และเหมาะกับเว็บไซต์ที่ทำ SEO

ไขความลับกับ 4 ปัจจัยที่ทำให้ WeP ได้รับความนิยม และเหมาะกับเว็บไซต์ที่ทำ SEO ?

ในยุคปัจจุบัน เว็บไซต์ต่างๆ ให้ความสำคัญกับ “ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ” มากขึ้น  เพราะฉะนั้น ขนาดไฟล์ภาพ จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญ WebP จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่เพียงแต่บนเว็บไซต์ของ Google เท่านั้น แต่เว็บไซต์ต่างๆ รวมไปถึง เว็บไซต์ของสำนักข่าวใหญ่ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศต่างหันมาใช้ไฟล์ภาพสกุล “WebP” กันมากขึ้น โดยเหตุผลที่ทำให้คนเปลี่ยนมาใช้ WebP มีดังนี้

 

1. ช่วยเพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์

ด้วยจุดเด่นที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถโหลดเว็บไซต์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานเข้าใช้เว็บไซต์ของคุณได้นานขึ้นเมื่อเทียบกับปกติ โดยจากสถิติพบว่า ทุกๆ 1 วินาทีที่เว็บไซต์โหลดช้า ส่งผลให้ผู้ใช้งานเกิดความไม่พึงพอใจเพิ่มขึ้น 16% แถม 1 ใน 4 ของผู้เข้าชมยังกดปิดหน้าเว็บไซต์ทิ้ง หากโหลดเกิน 4 วินาทีด้วย นั่นจึงทำให้ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ มีผลต่อการจัดอันดับบน Google

 

2. รองรับได้มากกว่าแค่ไฟล์ภาพ

หากเป็นสกุลไฟล์อื่นๆ ที่ใช้กันทั่วไป ก็คงจะแยกเป็นไฟล์ภาพก็ส่วนไฟล์ภาพ ไฟล์วิดีโอก็ส่วนไฟล์วิดีโอ แต่ WebP นั้นต่างออกไป เพราะมันสามารถ Optimize ได้หลายรูปแบบ ทั้งไฟล์แบบ Lossy และ Lossless พื้นหลังโปร่งใส นอกจากนี้มันยังรองรับ Animation ที่คล้ายคลึงกับ GIF อีกด้วย

 

3. ช่วยประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูล

อย่างที่ทราบกันดีว่าวิธีบีบไฟล์รูปภาพให้เล็กลงตามแบบ WebP File นั้นช่วยทำให้เว็บไซต์สามารถโหลดได้เร็วขึ้น เนื่องจากมีขนาดไฟล์ที่เล็ก ซึ่งข้อดีในส่วนนี้นี่ล่ะที่ทำให้ไม่สิ้นเปลืองพื้นที่เก็บข้อมูลของตัวเว็บไซต์ และ Web Hosting 

 

4. สามารถปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้นได้

เนื่องจาก WebP คือ ไฟล์ที่มาในรูปแบบของ Open Source นั่นจึงทำให้คุณหรือนักพัฒนาท่านอื่นๆ สามารถดาวน์โหลดไฟล์และนำตัวไฟล์ไปปรับปรุง เพื่อพัฒนาไฟล์ให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นตามที่คุณต้องการได้

 

และนี่ก็คือ 4 ปัจจัยสำคัญที่ทำไมต้องใช้ WebP จะเห็นได้ว่าปัจจัยสำคัญของเรื่องนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ด้านการทำ SEO ทั้งสิ้น ดังนั้น WebP จึงกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับรูปภาพบนเว็บ ด้วยข้อดีมากมายและคุณภาพที่เหนือกว่า JPEG และ PNG อย่างไรก็ตามแต่ เมื่อมีข้อดีแล้ว ก็ต้องมีข้อเสียร่วมด้วย 

 

3 ข้อเสียต้องรู้ก่อนใช้โปรแกรมแปลงไฟล์ WebP

1. ไม่แสดงผลบนบางเบราว์เซอร์

แม้ว่า WebP นั้นจะได้รับการรับรองจากเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่แล้ว แต่ก็ยังมีเบราว์เซอร์บางตัวเช่นกันที่ไม่ได้รองรับไฟล์ภาพสกุล WebP นั่นก็คือ “Internet Explorer” เนื่องจาก Internet Explorer มีปัญหาเกี่ยวกับภาพที่ผ่านการบีบอัด HTML ฉะนั้นแล้วถ้าคุณอยากให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งานจาก Internet Explorer ได้ อาจจะต้องวางภาพ JPEG ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งก็จะเปลืองพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากขึ้นไปอีก

 

2. คุณภาพความชัดและรายละเอียดต่ำลง

อย่างที่ทราบกันดีว่าไฟล์ภาพ WebP คือไฟล์ภาพที่ถูกบีบอัดให้มีขนาดเล็กลง จนทำให้คุณภาพและรายละเอียดความคมชัดของภาพลดลงตามไปด้วย ซึ่งถ้าเป็นผู้ใช้งานส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้ให้ความสนใจในส่วนนี้เท่าไหร่นัก ยกเว้นผู้ใช้งานในกลุ่มช่างภาพ, กราฟิกดีไซน์เนอร์ และ สถาปนิกที่ต้องการภาพที่มีคุณภาพสูง ให้รายละเอียดที่คมชัด

 

3. ไม่ตอบโจทย์การใช้งานออฟไลน์

นี่เป็นเหตุผลที่ต่อเนื่องมาจากข้อที่ 2 นั่นก็คือการไม่ตอบโจทย์ในเรื่องของความต้องการรูปภาพที่มีความคมชัดสูง ให้รายละเอียดที่ชัดเจน เนื่องจากงานออฟไลน์ อาทิ ป้ายบิลบอร์ด และ ป้ายโฆษณา เป็นงานที่ต้องภาพที่คมชัด เห็นดีเทลในภาพชัดเจน

 

เว็บไซต์บีบไฟล์รูปภาพ และวิธีบีบไฟล์รูปภาพให้เล็กลงด้วยการแปลงไฟล์เป็น WebP แบบง่ายๆ 

เคยโหลดรูปภาพมาแล้วเจอไฟล์ WebP สงสัยไหมว่าจะแปลงไฟล์ยังไง ? ไม่ต้องกังวลไป เพราะวันนี้เรามีตัวช่วยมาแนะนำ ! เมื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับ WebP กันมากขึ้นแล้ว เราก็ขอแนะนำเว็บไซต์หรือโปรแกรมแปลง WebP เป็น JPG หรือ PNG ให้ทุกท่านได้ชมสักหน่อยว่ามีเว็บไซต์อะไรบ้าง เผื่อสำหรับท่านใดที่ต้องการไปโหลดรูปภาพออนไลน์มาแต่ดันเป็นไฟล์ WebP แล้วต้องการเปลี่ยนเป็นไฟล์อื่น 

 

1. เว็บไซต์สำหรับโปรแกรมแปลงไฟล์ WebP เป็น JPG / PNG มีดังนี้ 

2. เว็บไซต์สำหรับโปรแกรมแปลงไฟล์ PNG / JPEG เป็น WebP มีดังนี้

3. ปลั๊กอินสำหรับแปลงไฟล์ใน WordPress

บทสรุป

หลายคนอาจจะเคยมองว่าการทำ SEO นั้นจะต้องเน้นไปที่คุณภาพของเว็บไซต์, บทความ SEO และการทำ Backlink เป็นหลัก แต่อย่าลืมว่าการเตรียมความพร้อมให้หน้าเว็บไม่ต้องรอโหลดนานๆ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าบริษัทรับทำ SEO หลาย ๆ แห่ง ได้หันมาใช้งานภาพสกุล WebP บนเว็บไซต์กันมากขึ้น แน่นอนว่ารวมถึง Digital Factory ด้วยเช่นกัน 

 

หากสนใจทำ SEO แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากส่วนไหนดี ปรึกษากับทีมงานเราสิ ! เพราะที่นี่พร้อมให้บริการ Digital Marketing อย่างครบวงจร ไม่ว่างานคุณจะสเกลเล็กหรือสเกลใหญ่ ทีมงานมืออาชีพของเราพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยบริการที่หลากหลาย ปรับแต่งได้ตามใจคุณ ตรงกับทุกความต้องการและงบประมาณ ธุรกิจของคุณก็เติบโตได้เพียงแค่ปรึกษาเรา !

 

แชร์ :

บทความอื่นๆ

สวัสดี!,

พร้อมสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกันหรือยัง?
ถึงเวลาทำให้ไอเดียกลายเป็นจริง!

มาวางแผน ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง และพุ่งสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน!