ในยุคที่หลายเว็บไซต์สามารถทำ SEO กันได้อยู่ทั่วไป แน่นอนว่าย่อมทำให้เกิดการแข่งขันอันดุเดือดบนโลกออนไลน์อย่างแน่นอน จนเกิดเป็นวิธีมากมายหลายแบบ ไม่เว้นแม้กระทั่งการปั่นคอนเทนต์ให้มีจำนวนเยอะๆ บนเว็บไซต์
นั่นจึงทำให้ Google ตระหนักถึงประเด็นดังกล่าวและพัฒนากฎเกณฑ์ใหม่ขึ้นมาเพื่อประเมินคุณภาพของเว็บไซต์และเนื้อหาต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตใหม่ นั่นก็คือ “E-E-A-T Factor” งานนี้ E-E-A-T คืออะไร? E-E-A-T สําคัญอย่างไรกับ SEO เราหาคำตอบมาให้คุณแล้ว !
E-E-A-T คืออะไร ? ทำความรู้จักกฎเกณฑ์ใหม่ของ Google
E-E-A-T คือ หลักเกณฑ์สำคัญในการประเมินคุณภาพของเนื้อหาในเว็บไซต์ที่ถูกปรับปรุงขึ้นใหม่ตามแนวทางของ Google โดยกฎเกณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ Google ทำการอัปเดตจาก E-A-T Factor เดิม มีดังนี้
Experience (ประสบการณ์)
สำหรับ E ตัวที่หนึ่ง มีความหมายว่า “ประสบการณ์” นั่นจึงทำให้เป็นตัวแทนของการบอกเล่าประสบการณ์ที่เคยพบเจอมาแบ่งปันผ่านตัวหนังสือนั่นเอง โดยอาจจะมีการสอดแทรกความคิดเห็นลงไปด้วยบางครั้ง ทำให้เนื้อหาของคุณมีความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำกับเว็บไซต์อื่น
Expertise (ความเชี่ยวชาญ)
สำหรับ E ตัวที่ 2 มีความหมายว่า “ความเชี่ยวชาญ” นั่นจึงทำให้เป็นตัวแทนของการเขียนเนื้อหาแบบรู้ลึก รู้จริง ประหนึ่งว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อนั้นๆ แต่ข้อแม้ของ E ตัวที่สองนี้ก็คือ จะต้องเป็นการเขียนเนื้อหาในระดับผู้เชี่ยวชาญที่อธิบายให้ผู้รับสารเข้าใจได้โดยง่ายด้วย
Authoritativeness (ความเป็นเจ้าของ)
สำหรับ A ตัวนี้มีความหมายว่า “ความเป็นเจ้าของ” นั่นจึงทำให้เป็นตัวแทนของการเขียนบทความที่ดี มีความเข้าใจอย่างถูกต้องและถ่องแท้จนถูกนำไปอ้างอิงเป็น Reffence ของเว็บไซต์อื่นๆ จนทำให้เกิด Backlink กลับมาที่เว็บไซต์
Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ)
สำหรับ T ตัวนี้มีความหมายว่า “ความน่าเชื่อถือ” ซึ่งสามารถสร้างได้ด้วยการระบุที่อยู่บริษัท ช่องทางการติดต่อ ลงบทความด้วยความสม่ำเสมอ แน่นอนว่าต้องเป็น SEO สายขาว ไม่ใช่ SEO สายดำ โดยเด็ดขาด !
อาจกล่าวได้ว่าหลักเกณฑ์ใหม่ที่มีการปรับแก้ในช่วงหลังๆ มานี้ แม้ว่าจะไม่ได้แตกต่างจากหลักเกณฑ์เดิมเท่าไหร่นัก แต่ก็ส่งผลกระทบกับ SEO ได้ หากคุณยังปรับแก้เว็บไซต์ให้เป็นไปตามมาตรฐานเกณฑ์ใหม่ของ Google ไม่ได้ เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดอันดับบนหน้าค้นหา Google เพราะ Google ใช้หลักเกณฑ์เหล่านี้ในการตรวจเช็กข้อมูลนั่นเอง
7 สูตรลับ การสร้างคอนเทนต์ที่ Google หลงรัก ! โดยยึดหลัก วิธีทำ E-E-A-T Factor
1. ทำ SEO Off-Page ด้วย Backlink ที่มีคุณภาพ
การทำ SEO Off-Page ด้วย Backlinks ที่มีคุณภาพจากเว็บไซต์ที่มีอิทธิพลและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณ คือหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่สามารถการันตีได้ว่าเว็บไซต์ของคุณมีความเชื่อถือในสายตาของ Google ซึ่งวิธีที่จะทำให้ได้ Backlinks เหล่านั้นมานั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะต้องมาด้วยการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดี ไม่ซ้ำใคร และมีคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องจะได้เห็นว่าคุณคือผู้เชี่ยวชาญจนต้องทำการอ้างอิงถึงคุณนั่นเอง
2. สร้างการพูดถึง (Metion) จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
การที่เว็บไซต์ของคุณได้รับ Backlink อย่างสม่ำเสมอนั้นส่งผลดีต่อการทำ SEO ก็จริง แต่แค่นั้นมันยังไม่สร้างอิมแพคสักเท่าไหร่ เพราะของจริงคือการที่คุณได้รับการพูดถึง (Metion) จากแหล่งที่มีความเชื่อถือต่างหาก ขอเพียงแค่คุณถูกพูดถึงจากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือสักหน สองหน แล้วล่ะก็ รับรองเลยว่ามันจะทำให้อันดับบน Google ของคุณ เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
โดยคุณสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การเข้าร่วม Podcast, การเป็นพาร์ทเนอร์กับอินฟลูเอนเซอร์ และ การรับบท Guest เพื่อเขียนบทความให้เว็บไซต์อื่น เป็นต้น
3. ปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเสมอ
การปรับปรุงเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้เป็นปัจจุบันเสมอเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เช่น คุณทำคอนเทนต์ขนาดรูปภาพในเฟสบุ้กไปเมื่อปี 2020 ปัจจุบันเฟสบุ้กมีการเปลี่ยนแปลงขนาดรูปภาพแล้ว คุณก็ควรปรับปรุงเนื้อหาบทความให้เป็นปัจจุบันเสมอ
4. แสดงช่องทางการติดต่อ
ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการติดต่อใดๆ คุณควรแสดงข้อมูลเอาไว้บนหน้าเว็บไซต์อยู่เสมอ เพื่อที่ Google จะได้ทราบและทำความเข้าใจเกี่ยวกับมีอยู่รวมถึงตัวตนของคุณ เพราะถ้าหากว่าเว็บไซต์ของคุณไม่แสดงที่อยู่ รวมถึงข้อมูลติดต่ออื่นๆ แล้วล่ะก็ นั่นอาจทำให้เกิดผลกระทบต่ออันดับบน Google ของคุณก็เป็นได้
5. สร้างเนื้อหากับผู้เชี่ยวชาญ
เนื่องจากกฎเกณฑ์ของ Google เกี่ยวกับ E-E-A-T Factor ทำให้ Google ชอบเนื้อหาที่สร้างขึ้นจากผู้เชี่ยวชาญ นั่นจึงทำให้การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ เช่น แพทย์ ทนาย เชฟ ฯลฯ เพื่อทำคอนเทนต์บนเว็บไซต์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากคนเหล่านี้มีตัวตนที่ถูกยืนยันชัดเจนแล้วนั่นเอง
6. ทำ Content Marketing Framework
การเขียนคอนเทนต์ให้มีเนื้อหาที่มีคุณภาพและเชื่อมโยงถึงกันด้วยการทำ Content Marketing Framework คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับการทำ SEO ในระยะยาว อย่าลืมว่าบทความที่มีคุณภาพยังคงเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการจัดอันดับของ Google อยู่
7. โปรโมตนอกเว็บไซต์
หากคุณทำข้อที่ 1 จนถึงข้อที่ 6 แล้ว จะขาดข้อที่ 7 ไปได้อย่างไร อย่าลืมว่าการโปรโมตหน้าเว็บไซต์บนโซเชียลมีเดียอื่นๆ ไปจนถึงการส่งอีเมลหากลุ่มเป้าหมาย ช่วยเพิ่มโอกาสในการเปิดเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นด้วย
บทสรุป
และนี่ก็คือสาระดีๆ เกี่ยวกับ E-E-A-T Factor ที่เรานำมาฝากคุณในวันนี้ เพราะการทำให้เว็บไซต์และเนื้อหาบทความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ E-E-A-T Factor ถือเป็นเรื่องสำคัญ อย่าลืมว่านี่คือเครื่องหมายที่การันตีว่า หากปฏิบัติได้ตามเกณฑ์นี้ เว็บไซต์ของคุณจะสามารถติดอันดับในหน้าหนึ่งได้อย่างมั่นคง และไม่ตกอันดับง่ายๆ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่า ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน
หากมีปัญหาเรื่องการทำ SEO สามารถปรึกษากับเราได้ เพราะที่ Digital Factory มีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์คอยให้คำปรึกษาและรับทำ SEO อย่างครบวงจร